เทรนด์อาหารเครื่องดื่มปี 2024

เทรนด์อาหารในปี 2024 จะมีการเน้นที่รสชาติระดับโลกและอาหารจากวัฒนธรรมที่สาม ซึ่งได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและโลกาภิวัตน์ เทรนด์นี้เราจะได้เห็นร้านอาหารอิตาเลียนแบบวาฟูที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมญี่ปุ่นและอิตาลี และร้านเบเกอรี่ฟิลิปปินส์-อังกฤษ เชฟรุ่นใหม่กำลังสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และสร้างความหลากหลายในแบบของพวกเขา รสชาติและส่วนผสมของเอเชียจะได้รับความนิยม เช่นงาดำ อูเบะ และชานมจะได้รับความนิยมมากขึ้น รสชาติเหล่านี้ยังจะปรากฏในขนมขบเคี้ยวรสเค็ม เช่น ป๊อปคอร์นชานมดำ

Photo by Louis Hansel on Unsplash

ผลไม้เอเชีย เช่น เงาะ ฝรั่งสีชมพู ลำไย มังคุด และแก้วมังกร จะได้รับความนิยมจากผู้คนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีเชฟเอเชียรุ่นแรกที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานอาหาร

D1
D2
D3

ความยั่งยืนยังคงเป็นแรงผลักดันเทรนด์อาหารและเครื่องดื่ม โดยมีบริษัทต่างๆ ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในรูปแบบที่น่าแปลกใจมากขึ้น ตัวอย่างเช่น จะมีการนำช็อกโกแลตทางเลือกมาใช้ เนื่องจากความต้องการโกโก้ทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า และการเข้าถึงช็อกโกแลตทางเลือกทำได้ยากขึ้นและมีราคาแพงขึ้น บริษัทต่างๆ เช่น Voyage Foods และ WNWN Food Labs กำลังคิดค้นช็อกโกแลตทางเลือกที่มีรสชาติ กลิ่น และรสชาติเหมือนช็อกโกแลตดั้งเดิม เมื่อมีการรับรู้มากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อสภาพอากาศของส่วนผสมจากทะเล ผู้คิดค้นจะเริ่มนำเสนอส่วนผสมที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เช่น เม่นทะเลและไข่ปลา ซึ่งให้รสชาติที่อร่อย กลมกล่อม และนำไปใช้ในอาหารประเภทอื่นๆมากขึ้น

เทรนด์ทางด้านอาหาร plant-based ยังคงอยู่ต่อ วัตถุดิบที่นิยมมาทำเมนูและโปรตีนทดแทนต่างๆคือเห็ด เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น 8% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

ร้านอาหารประเภท fast casual ต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการอาหารได้ทุกที่ทุกเวลา และใช้บริการจัดส่งถึงบ้านแบบด่วน ไดรฟ์ทรู รวมไปถึงตู้บริการตนเอง

ร้านอาหารจานเดียว หรือร้านประเภทเชี่ยวชาญทางด้านเมนูนั้นๆ คือขายในลักษณะแบบเมนูเดียว หรือเมนูน้อยแต่มีจุดขายที่พิเศษและมีการใช้วัตถุดิบร่วมกัน กำลังได้รับความนิยม โดยมากมักจะนำเสนอประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ถ้าให้ยกตัวอย่างก็คือร้านผัดไทยแบบบ้านเราที่ใช้กระทะเหล็กใบใหญ่ผัด

D1
D2
D3

บทความอื่น